แนะนำหนังสือดี-ที่เด็กมหาลัยต้องอ่าน

รียนจบมาแล้วจะได้ทำงานทันทีเลยไหม

งานที่ใช่ในอุดมคติของเราเป็นยังไงกันแน่?

เงินเดือนที่ควรจะได้คือเท่าไหร่? แล้วจะบริหารเงินในแต่ละเดือนอย่างไรให้พอใช้ดี?

อายุตั้งเท่านี้แล้ว ทำไมถึงรู้สึกเหมือนยังไม่มีอะไรที่น่าภูมิใจในตัวเองเลย

คิดว่าชาวคลับวัยมหาลัยที่กำลังเรียนอยู่หรือว่าเรียนใกล้จบแล้วหลายคน คงตั้งคำถามเหล่านี้วนไปวนมาในหัวกันอยู่บ่อย ๆ ยิ่งในปัจจุบันที่สังคมบีบบังคับให้เราต้องรีบประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อย ถึงจะกลายเป็นคนที่น่ายกย่อง รวมไปถึงการต้องเห็นความสำเร็จของคนอื่นผ่านไทม์ไลน์กันแทบจะทุกวัน ก็อาจจะทำให้เด็กจบใหม่วัย first jobber หลาย ๆ คน รู้สึกห่อเหี่ยวใจไปตาม ๆ กัน อยากจะบอกว่า เราเองก็เคยมีความรู้สึกเหล่านี้ไม่ต่างกับทุกคนเลยค่ะ กว่าจะข้ามผ่านมาได้ก็แทบแย่ไปเลยเหมือนกัน เลยอยากจะขอส่งกำลังใจให้ผ่านบทความนี้ว่าอย่าเพิ่งท้อหรือถอดใจกันไปเลยนะคะ เพราะจังหวะชีวิตของแต่ละคนมันไม่แตกต่างกันไป แค่เราเข้าใจ ยอมรับ และไม่ย่อท้อ เราก็จะได้ค้นพบกับงานที่ใช่ ได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขในแบบที่ตัวเองชอบอย่างแน่นอน

และนอกจากถ้อยคำให้กำลังใจแล้ว เรายังมีหนังสือดี ๆ ที่อยากมาแนะนำให้ทุกคนอ่าน เพื่อเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยให้ข้ามผ่านช่วงเวลาที่แสนสับสนแบบนี้ไปได้ค่ะ จะมีเล่มไหนบ้าง ตามมาโดนป้ายยากันได้เลย

  1. เพราะเป็นวัยรุ่นจึงเจ็บปวด

    เชื่อว่าหลายคนคงเคยเห็นหนังสือปกสีส้มแสนสดใสเล่มนี้ผ่านตากันมาบ้างแล้วแน่ ๆ ค่ะ เพราะเล่มนี้มักจะติดอันดับหนังสือขายดีและเป็นเล่มที่ถูกแนะนำ บอกต่อ ให้วัยรุ่นแบบเราได้อ่านกันบ่อยมาก ส่วนตัวเราอ่านแล้วประทับใจนะ เหมือนถูกปลอบใจด้วยการตบบ่าเบา ๆ แล้วบอกกับเราว่า ทุกอย่างมันจะไม่เป็นไร และเราจะผ่านทุกเหตุการณ์ไม่ว่าดีหรือร้ายไปได้ในที่สุด เราคิดว่าสิ่งสำคัญที่หนังสือพยายามสื่อออกมา คือ อย่ากลัวที่จะล้มเหลว หรือผิดพลาด เพราะชีวิตคือการเรียนรู้ ที่สำคัญ วัย 20 เป็นวัยที่ผิดพลาดได้ เพื่อที่จะได้มีบทเรียนและประสบการณ์ติดตัวไปเป็นภูมิคุ้มกันหัวใจที่แข่งแกร่งให้กับชีวิตในอนาคตข้างหน้านั่นเองค่ะ

  2. good vibes, good life ใช้คลื่นพลังบวก ดึงดูดพลังสุข

    สำหรับเล่มนี้ เรายกให้เป็นคัมภีร์เล่มแรกสำหรับมือใหม่ที่อยากเข้าวงการ manifest เลยค่ะ หยิบมาอ่านทีไรก็ได้พลังบวกจากเล่มนี้ตลอด โดยในเล่ม ผู้เขียนเค้าได้บอกเล่าประสบการณ์การเปลี่ยนชีวิตด้วยความคิดบวกของตัวเค้าเองตั้งแต่สมัยเรียนอยู่มหาวิทยาลัย ให้เห็นว่าการมองโลกในแง่บวกมันส่งผลดีต่อชีวิตของเค้ายังไงบ้าง และนอกจากนั้น ผลดีของการมองโลกในแง่ดี (แต่ไม่ใช่การโลกสวยแต่อย่างใด) จะทำให้เราเป็นคนที่โชคดีขึ้นอย่างน่าประหลาดใจนั่นเอง เหตุผลที่เราอยากแนะนำให้อ่านเล่มนี้ เพราะจากประสบการณ์ตรงเราพบว่าการมีทัศนคติที่ดีต่อชีวิต จะช่วยดึงดูดสิ่งดี ๆ ให้เข้ามาในชีวิตนั่นเองค่ะ นอกจากเล่มนี้แล้ว ล่าสุดคุณนักเขียน Vex King เค้าก็ได้ออกเล่มสองที่มีชื่อว่า “พลังแห่งการเยียวยาที่ล้ำค่าที่สุดในชีวิต” ที่น่าอ่านไม่แพ้กันเลยค่ะ ไว้ได้ลองอ่านแล้วจะมาป้ายยาในบทความต่อ ๆ ไปน้า

  3. money 101 เริ่มต้นนับหนึ่งสู่ชีวิตการเงินอุดมสุข

    หนังสือการเงินเล่มนี้ เป็นหนังสือที่เขียนขึ้นโดย โค้ชหนุ่ม ผู้แปลหนังสือพ่อรวยสอนลูก (Rich Dad Poor Dad) นอกจากจะเป็นนักแปลแล้ว โค้ชหนุ่มยังเคยมีหนี้ติดตัวถึง 18 ล้านเลยทีเดียว เล่มนี้เป็นหนังสือที่คนจะเริ่มเรียนรู้ทางด้านการเงิน มักแนะนำกันแบบปากต่อปากนั่นเอง พอเป็นหนังสือการเงิน ทุกคนอย่าเพิ่งเลื่อนผ่านไปอ่านรีวิวเล่มต่อนะไป ขอเล่าคร่าว ๆ ก่อนว่าสำหรับ money 101 เล่มนี้ ชื่อที่บอกอยู่แล้วว่าเป็น “การเงินระดับเริ่มต้น” จึงเป็นหนังสือที่อ่านแล้วทำความเข้าใจได้ไม่ยาก เริ่มสอนตั้งแต่พื้นฐานอย่างเรื่องการตั้งเป้าหมายทางการเงิน รวมไปถึงเรื่องภาษี และการวางแผนการเงินในอนาคตอย่างเรื่องเงินเกษียณ ถึงหนังสือเล่มนี้จะมีแค่ 216 หน้า แต่ก็อธิบายทุกหัวข้ออย่างละเอียดและเข้าใจง่าย ส่วนตัวเราคิดว่าเหมาะมากสำหรับวัยมหาลัย เพราะเป็นวัยที่ควรเริ่มวางแผนการเงินและมีวินัยกับการออมเงิน เริ่มเก็บเงินไวจะได้ปลอดภัยไว้ก่อน เผื่ออนาคตอาจจำเป็นต้องใช้เงินฉุกเฉิน

  4. ช่างมันเถอะ อีกไม่กี่ปีเราก็เป็นเถ้าธุลีกันหมดแล้ว

    เป็นหนังสืออีกเล่มที่ติดอันดับขายดีมาตลอด เราเองที่ไปเดินร้านหนังสือบ่อย ๆ ทีแรกเห็นแล้วก็ไม่ได้ตั้งใจจะซื้อมาอ่าน แต่ทนการป้ายยาจากเพื่อนไม่ไหว พอได้ลองอ่านเองแล้วก็ชอบ เล่มนี้เขียนโดยคุณ ฟุจิโนะ โทโมยะ จิตแพทย์ชาวญี่ปุ่น เค้าเคลมว่าว่าหนังสือเล่มนี้ได้รวบรวมเคล็ดลับการใช้ชีวิตอย่างไม่เปลืองแรง สำหรับทุกคนที่พยายามอย่างหนักในทุกวัน ซึ่งเรามองว่าในวัยมหาลัยก็ เป็นวัยที่ต้องแบกรับความกดดันหลายอย่างไม่แพ้กับผู้ใหญ่วัยทำงาน ก็เลยอยากจะป้ายยาเล่มนี้ให้ได้อ่านกันค่ะ เนื้อหาในเล่มเค้าจะสอนให้เราปล่อยวางกับสิ่งต่าง ๆ ที่ถาโถมเข้ามาในชีวิต และสอนให้เรารู้จักที่จะไม่ยึดติดกับสิ่งที่เราควบคุมไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของงาน ความสัมพันธ์ และครอบครัว ภาษาในเล่มอ่านง่าย เหมาะมากที่จะเอาไว้อ่านก่อนนอน เป็นการบำบัดความเหนื่อยจากการใช้ชีวิตมาทั้งวัน ได้ทิ้งตัวลงบนเตียงแล้วอ่านหนังสือเพื่อปลอบใจก็คงจะฟินไม่น้อย

  5. วางใจให้ไร้กังวล

    เล่มนี้เป็นเล่มที่เราอยากให้ทุกคนลองอ่านมากจริง ๆ ถ้าจะให้เปรียบคือเป็นคัมภีร์แห่งการปล่อยวางเลยแหละ หนังสือเล่มนี้ ทำให้เราเห็นว่าการกังวลไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้น ลองกังวลให้น้อยลงแล้วใช้ชีวิตทุกวันให้มีความสุขกันเถอะ และถึงผู้เขียนจะเป็นพระชาวญี่ปุ่น แต่สำนวนภาษาก็ไม่ได้อ่านยากหรือชวนง่วงเลยนะคะ กลับให้ความรู้สึกอ่านแล้วใจสงบ ด้วยการแนะนำวิธีคิดที่ช่วยให้ละวางความวิตกได้ง่ายขึ้น ลดความกังวลถึงสิ่งที่ยังมาไม่ถึง ตั้งใจจดจ่ออยู่กับปัจจุบัน ด้วยคำสอนและภาษิตเซนนั่นเองค่ะ จนเราแอบคิดเลยว่า คำสอนของเซนมันจึ้งแบบนี้เลยหรอเนี่ย อยากหาหนังสือแนวนี้มาอ่านอีกหลาย ๆ เล่ม ส่วนตัวเราหยิบมาอ่านซ้ำถึง 2 รอบด้วยกันแล้วค่ะ แต่ละรอบที่อ่านก็จะได้ความรู้สึกดีกลับมาตลอด เป็นอะไรที่ฮีลใจมาก สำหรับใครที่อยากเริ่มอ่านแนวธรรมะที่เข้าใจง่าย เราแนะนำให้เล่มนี้เป็นเล่มแรกที่ควรอ่านเลยค่ะ รับรองไม่ผิดหวัง

สั่งซื้อหนังสือได้ที่ https://club.b2s.co.th/th/index

Related Posts

แนะนำที่เที่ยวสุดฮิตพาเด็กๆเที่ยวกรุงเทพ
คุณพ่อคุณแม่มักจะมองหาที่เที่ยวและกิจกรรมช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์สำหรับเด็ก ๆ กันอยู่  กรุงเทพและจังหวัดใกล้เคียงมีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจที่สามารถทำกิจกรรมพร้อมกันทั้งครอบครัวและอีกทั้งเสริมสร้างความรู้ รวมถึงเปิดโลกและสร้างจินตนาการสำหรับหนูน้อยที่รัก เรียกว่าเที่ยว เล่น แต่มีผลประโยชน์หลายต่อเราได้รวบรวมสถานที่น่าสนใจไว้ให้แล้ว เราไปดูกันเลย... Sea...
Read more
BOLT โบลท์ ซูเปอร์โฮ่ง ฮีโร่หัวใจเต็มร้อย
ภาพยนตร์แอนิเมชั่นของดิสนีย์เรื่อง BOLT เป็นเรื่องเกี่ยวกับนักแสดงสุนัขในรายการซูเปอร์ฮีโร่ทางทีวีที่คิดว่าตัวเองมีพลังพิเศษจริงๆ โบลต์ถูกให้ไปอยู่ที่กองถ่ายเพื่อไม่ให้รู้สึกว่าตัวเองเป็นซูเปอร์ด็อกอีกต่อไป วันหนึ่ง การยิงปืนกลับผิดพลาด โบลต์พยายามช่วยเพนนี เพื่อนทางทีวีของเขา แต่ดันถูกส่งมาในกล่องโดยบังเอิญสู่โลกจริงที่นิวยอร์กซิตี้ เขาพบแมวชื่อมิตเทนส์...
Read more
ฟันหลอเด็ก
เด็กฟันโยก ฟันหน้าหลอ
เพราะฟันน้ำนมคือฟันชุดแรกของเด็ก ๆ ที่ขึ้นมาเพื่อให้สามารถทานอาหารได้อย่างหลากหลายมากขึ้น ซึ่งเมื่อเด็กน้อยเหล่านั้นเติบโตขึ้นจนถึงช่วงนึงของชีวิต ฟันน้ำนมที่มีอยู่ก็จะหลุดออกไป และถูกแทนที่ด้วยฟันแท้แทน แต่ว่า ในขณะที่เด็ก ๆ ฟันหลุด...
Read more
ปล่อยให้เด็กปวดฟัน อันตรายกว่าที่คุณคิด
หลายครั้งที่คุณพ่อคุณแม่ทั้งหลายรู้สึกกังวลใจเวลาเห็นเด็กปวดฟัน เพราะนอกจากจะไม่ได้เห็นสีหน้าของลูกที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มจากการทานของอร่อยแล้ว ยังต้องเห็นลูกน้อยทรมานจากอาการปวดฟันจนนอนไม่ได้ ส่งผลให้เด็กๆ หงุดหงิดง่าย ถ้าหากปล่อยไว้ในระยะยาวอาจส่งผลถึงพัฒนาการการเจริญเติบโตของลูกช้าลงด้วย แม้ว่าสาเหตุส่วนหนึ่งที่ทำให้เด็กปวดฟันนั้นเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ แต่อีกส่วนหนึ่งก็เกิดจากพฤติกรรมการดูแลฟันของเด็กเองด้วย วันนี้ทาง Homey...
Read more
Translate »