วิธีการเลือกซื้อยาสีฟันเด็ก
เตรียมเลือกยาสีฟันให้ลูกตั้งแต่เมื่อไหร่ดี?
หนึ่งในคำถามยอดนิยมสำหรับใครหลายคนก็คงไม่พ้นเรื่องนี้แน่นอน เราขอบอกตรงนี้เลยว่า คุณสามารถทำความสะอาดฟันให้ลูกน้อยได้ตั้งแต่ฟันซี่แรกงอกขึ้นมาในช่วงอายุ 6 เดือนขึ้นไป โดยนำผ้าสะอาดชุบน้ำอุ่นมาเช็ดทำความสะอาดฟัน เหงือก ลิ้น และเพดานลิ้น หลังจากฟันซี่แรกขึ้นแล้วฟันซี่อื่นจะทยอยขึ้นตามกันมาเรื่อยๆ ในช่วงอายุ 8 เดือนขึ้นไป ซึ่งเป็นช่วงที่คุณพ่อคุณแม่ควรเตรียมแปรงสีฟันและยาสีฟันให้เจ้าตัวน้อยตามคำแนะนำของหมอฟันเด็ก
ข้อควรรู้ในการเลือกซื้อยาสีฟันสำหรับเด็ก
ยาสีฟันที่วางจำหน่ายตามท้องตลาดโดยทั่วไปมักมีข้อความเขียนกำกับว่าเหมาะสำหรับเด็กอายุ 2-6 ปี แต่ผู้ปกครองสามารถเลือกซื้อให้ลูกที่มีอายุต่ำกว่า 2 ปีใช้ได้ สำหรับผู้ปกครองท่านไหนอยากให้เด็กๆ สนุกกับการแปรงฟันมากขึ้น แนะนำให้ซื้อยาสีฟันอย่างน้อย 2 รสชาติ เพื่อเพิ่มสีสันให้เด็กรู้สึกตื่นเต้น แต่ไม่ควรซื้อยาสีฟันหลอดใหญ่เผื่อกรณีที่เด็กไม่ชอบกลิ่นและรสของยาสีฟัน จะได้เปลี่ยนยาสีฟันให้เหมาะกับความชอบของเด็กนั่นเอง
ประเภทของยาสีฟันสำหรับเด็ก
1. ยาสีฟันเด็กแบบแผ่น
- เหมาะสำหรับเด็กที่อยู่ในวัยแรกเกิด – 1 ปี
- ใช้ยาสีฟันแบบแผ่นหรือผ้าก๊อซ
- เช็ดทั้งเหงือกบนและล่าง ลิ้น และกระพุ้งแก้ม หลังจากดื่มนมหรือทานอาหารเสร็จ
2. ยาสีฟันเด็กแบบเนื้อเจล
- เหมาะสำหรับเด็กที่มีอายุ 1 – 3 ปี
- ใช้ยาสีฟันแบบเจลที่มีเนื้อสัมผัสนิ่ม มีสีใส โดยแบบเจลจะมีผงขัดละเอียดกว่าแบบครีม
- สามารถแปรงได้โดยไม่ต้องให้เด็กบ้วนปาก อีกทั้งมีฟองน้อยด้วย
3. ยาสีฟันเด็กแบบเนื้อครีม
- เหมาะสำหรับเด็กที่มีอายุ 3 ปีขึ้นไป
- ใช้ยาสีฟันเด็กแบบเนื้อครีมที่มีส่วนประกอบของฟลูออไรด์ ส่วนใหญ่มีกลิ่นหอมเพื่อดึงดูดให้ลูกชื่นชอบในการแปรงฟันมากขึ้น
ส่วนประกอบสำคัญที่ยาสีฟันเด็กต้องมี
1. ฟลูออไรด์
ฟลูออไรด์เป็นสารสำคัญที่ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของฟัน แต่ควรใช้เมื่อถึงวัยที่สามารถแปรงฟันเองได้โดยไม่ต้องกลัวว่าเด็กจะกลืนยาสีฟันลงคอ กรณีที่เป็นเด็กเล็กมากผู้ปกครองควรเลือกยาสีฟันที่ไม่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์ไปก่อน และไม่ควรเกิน 1,500 ppm
2. ไซลิทอล
เป็นสารที่ให้ความหวานแทนน้ำตาล สามารถลดปริมาณแบคทีเรียในช่องปากที่เป็นสาเหตุของฟันผุได้ อีกทั้งกระตุ้นกระบวนการสะสมกลับของแร่ธาตุในฟันให้เด็กที่มีฟันผุ และช่วยลดการแพร่กระจายเชื้อโรคฟันผุจากมารดาสู่ทารกอีกด้วย
3. มีกลิ่นหอม รสชาติอร่อย
ด้วยความที่ยาสีฟันสำหรับเด็กเล็กถูกออกแบบมีให้กินได้เนื่องจากเด็กเล็กไม่สามารถเข้าใจกระบวนการบ้วนออก ดังนั้นจึงควรใช้ยาสีฟันที่มีกลิ่นหอมและรสชาติอร่อยเพื่อให้เด็กชื่นชอบการแปรงฟัน ทั้งนี้เราขอแนะนำให้คุณพ่อคุณแม่เลือกรสชาติผลไม้ซึ่งเป็นรสชาติที่เด็กคุ้นชินจากอาหารที่เด็กรับประทานนั่นเอง เช่น รสสตรอเบอรี่ รสมะพร้าว
4. ปราศจากสารเติมแต่ง
ไม่ควรมีส่วนผสมของสารฟอกสีฟัน สารทำให้เกิดฟอง สีสังเคราะห์ และวัตถุกันเสียเพราะสารเหล่านี้จะขูดผิวฟัน ทำให้เคลือบฟันของเด็กสึกกร่อนและอาจระคายเคืองในช่องปาก หากเป็นไปได้ควรเลือกยาสีฟันที่ใช้สารให้ความหวานแทนน้ำตาลเพื่อป้องกันไม่ให้ฟันผุ
วิธีบีบยาสีฟันสำหรับเด็ก
1. สำหรับเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 2 ปี
ผู้ปกครองควรบีบยาสีฟันให้มีขนาดเท่าเมล็ดข้าวสาร หรืออาจป้ายบาง ๆ บนขนแปรงก็พ
2. สำหรับเด็กที่มีอายุ 3 ปีขึ้นไป
ผู้ปกครองควรบีบยาสีฟันให้มีขนาดเท่าความกว้างของหน้าแปรง
3. สำหรับเด็กที่มีอายุ 6 ปีขึ้นไป
ผู้ปกครองควรบีบยาสีฟันให้มีขนาดเท่าความยาวของหน้าแปรง
ผลข้างเคียงจากยาสีฟันที่ต้องระวัง
- ฟลูออไรด์ที่เหมาะสมในยาสีฟันอยู่ที่ประมาณ 1,000 – 1,500 ppm ไม่ว่าเด็กจะได้รับฟลูออไรด์ผ่านการแปรงฟันหรือกลืนยาสีฟันลงไปก็ตาม อาจทำให้ร่างกายสะสมฟลูออไรด์มากเกินไปจนฟันตกกระ เนื้อฟันเป็นจุดสีขาว เหลืองเข้ม หรือสีน้ำตาลเข้ม และนำมาสู่ปัญหาฟันเปราะหรือแตกง่าย
- หลีกเลี่ยงการใช้ยาสีฟันสมุนไพร เนื่องจากอาจเกิดอาการแพ้สำหรับเด็กบางคนได้
หากคุณพ่อคุณแม่ท่านใดกำลังมองหายาสีฟันที่มีคุณสมบัติที่กล่าวมาทั้งหมด ทางเราขอแนะนำ Homey Kids Toothpaste ยาสีฟันจากเรา Homey Dental Clini เพื่อการดูแลสุขภาพช่องปากตั้งแต่ซี่แรกของลูกน้อย เพื่อให้ลูกๆ มีสุขภาพฟันที่แข็งแรง สามารถทานของอร่อยได้อย่างหมดกังวลและสร้างเสริมความมั่นใจทุกครั้งที่ยิ้มนั่นเองครับ
ขอบคุณที่มา: homeydentalclinic.com